หน้าแรก

ตารางการขอต่อใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย

ที.ไอ.ไอ. ไทยรี
ต่ออายุครั้งที่ 1 คลิก คลิก
ต่ออายุครั้งที่ 2
ต่ออายุครั้งที่ 3
ต่ออายุครั้งที่ 4 ขึ้นไป คลิก คลิก

อบรมขอรับใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย  :   คลิก

กองทุนประกันวินาศภัย เป็นที่พึ่งของผู้เอาประกันภัยเมื่อบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจประกันวินาศภัยมั่นคง ยั่งยืนและมีความสามารถในการแข่งขัน

วีดีโอติวสอบการขอรับใบอนุญาต

  • All
  • กิจกรรมสมาคม
  • ข่าวสารจาก คปภ.

คปภ. เปิดเวทีเกียรติยศ “Prime Minister’s Insurance Awards 2025”

ยกระดับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ก้าวสู่ยุคดิจิทัลและความยั่งยืน เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) จัดพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร (Prime Minister’s Insurance Awards 2025) อย่างยิ่งใหญ่ ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เอวัน โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้แนวคิด “INSURENEXT Driving the Future of Insurance with Digital Innovation & Sustainability – ขับเคลื่อนอนาคตประกันภัย ด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและความยั่งยืน”โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า การมอบรางวัลนี้ถือเป็นเวทีสูงสุดของอุตสาหกรรมประกันภัยไทยเพื่อเชิดชูเกียรติองค์กรและบุคลากรที่มีผลงานโดดเด่น ทั้งด้านการบริหารจัดการ การบริการลูกค้า การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส บริษัทที่ได้รับรางวัลนายหน้าประกันภัยนิติบุคคลคุณภาพดีเด่น 2567 รางวัลนายหน้าประกันวินาศภัยนิติบุคคลคุณภาพดีเด่น 2567 ได้แก่ 1. บริษัท โฟร์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด 2. บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด 4. บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด รางวัลนายหน้าประกันชีวิตนิติบุคคลคุณภาพดีเด่น 2567 ได้แก่ 1. บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด 2. บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด เลขาธิการ คปภ. ย้ำว่า รางวัลนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องเกียรติคุณขององค์กรผู้รับรางวัล แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมาตรฐานของธุรกิจประกันภัยไทย ที่พร้อมขับเคลื่อนสู่เวทีสากล และเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ในนามของสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ขอร่วมแสดงความยินดีกับทุกบริษัทที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งอุตสาหกรรมก้าวต่อไปอย่างมั่นคง

คปภ. ประกาศผล “OIC InsurTech Award 2025”

หาสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านประกันภัย เงินรางวัลรวมกว่า 500,000 บาท เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จัดพิธีมอบรางวัล “OIC InsurTech Award 2025” ณ สถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง กรุงเทพฯ โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 400 ทีม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 500,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศ การประกวดแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ นักเรียน/นิสิต/นักศึกษา ภายใต้โจทย์ Innovation for Insurance Literacy ประชาชนทั่วไป ภายใต้โจทย์ Innovation for Accessible Insurance ผลการประกวด ประเภทนักเรียน/นิสิต/นักศึกษา🏆 รางวัลชนะเลิศ ทีม Rush to Rich กับผลงาน “InsurLot” (เงินรางวัล 100,000 บาท)🥈 รองชนะเลิศ อันดับ 1 ทีม InsureMate กับ “AI Insurance Companion” (70,000 บาท)🥉 รองชนะเลิศ อันดับ 2 ทีม LogIns กับ “To-Die List” (50,000 บาท)🎖️ ชมเชย ทีมคณิตประกันภัยฯ และทีม ClearBiz (ทีมละ 15,000 บาท) ประเภทประชาชนทั่วไป🏆 รางวัลชนะเลิศ ทีม Sxphia กับ “Auto Insurance Telematics Platform” (100,000 บาท)🥈 รองชนะเลิศ อันดับ 1 ทีม ERGO HIPPO (70,000 บาท)🥉 รองชนะเลิศ อันดับ 2 ทีม KIT-WISe-2-X (50,000 บาท)🎖️ ชมเชย ทีม BroSure และทีม พาไปรักษา (ทีมละ 15,000 บาท) โครงการนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงความรู้ด้านประกันภัยกับนวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อบ่มเพาะบุคลากรและต่อยอดสู่การใช้งานจริง สะท้อนความมุ่งมั่นของ คปภ. ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยสู่อนาคตดิจิทัลที่โปร่งใส เข้มแข็ง และยั่งยืน

คปภ. จัดกิจกรรม “สคร. สัญจร” ครั้งที่ 4 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เสริมพลังความรู้ – ต้นแบบการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยสำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (สคร.) จัดกิจกรรม “สคร. สัญจร” ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 23 – 24 สิงหาคม 2568 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะให้แก่บุคลากร สำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) รวมถึงเจ้าหน้าที่จากเขตท่าพระและเขตบางนา กิจกรรมครั้งนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และถอดบทเรียนจากการปฏิบัติงานจริง พร้อมชูเป้าหมายสำคัญในการยกระดับระบบคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และก้าวจากการทำงานเชิงรับไปสู่การป้องกันและลดความสูญเสียเชิงระบบ ผ่านมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนน และการส่งเสริมการทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) นอกจากนี้ คปภ. ยังได้เน้นย้ำการเปลี่ยนกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับเป็น e-Policy ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 และบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มกราคม 2569 เพื่อเพิ่มความสะดวก โปร่งใส และทันสมัยในการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กิจกรรมยังมีการจัด Workshop & Focus Group ภายใต้แนวคิด “เปิดเวที เปิดใจ คิดจริง ทำจริง” เพื่อฝึกปฏิบัติจริง วิเคราะห์ปัญหา และหาทางออกเชิงระบบ โดยมุ่งสร้างจังหวัดต้นแบบที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้จังหวัดอื่น ๆ “การสัญจรไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือการขับเคลื่อนความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือของคนในองค์กร เพื่อยกระดับภารกิจการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทั่วประเทศ” – สำนักงาน คปภ. ทั้งนี้ กิจกรรม “สคร. สัญจร” ครั้งที่ 5 จะจัดขึ้น ณ จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 6 – 7 กันยายน 2568

คปภ. เปิดเวทีสัมมนา 4 ภาค ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงราย

ย้ำมาตรการแก้ไขข้อร้องเรียน – พัฒนาระบบ PPMS ระยะที่ 2 รองรับบริการออนไลน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ จัดโครงการสัมมนา 4 ภาค ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 16–17 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรม Riva Vista Riverfront Resort จังหวัดเชียงราย โดยมีนายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เป็นประธาน พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย และผู้บริหาร คปภ. การสัมมนาครั้งนี้มุ่งเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัย พร้อมขับเคลื่อนมาตรการใหม่เพื่อยกระดับการดูแลสิทธิของประชาชน โดยเน้นกระบวนการแก้ไขข้อร้องเรียนอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม นอกจากนี้ คปภ. ยังได้ย้ำถึงการพัฒนาระบบ PPMS ระยะที่ 2 ซึ่งรองรับการให้บริการประชาชนแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ เพื่อให้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการพิจารณาเรื่องร้องเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล “เวทีสัมมนาในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับระบบประกันภัยไทยให้โปร่งใส เป็นธรรม และทันสมัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ประชาชน” – สำนักงาน คปภ.

คปภ. กำชับบริษัทประกันภัย รถยนต์ไฟฟ้าต้องให้ส่วนลดเบี้ยตามสิทธิ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรียกบริษัทประกันภัยเข้าชี้แจง กรณีการใช้ ระดับพฤติกรรมการขับขี่ ในการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า หลังคำสั่งนายทะเบียนที่ 47/2566 มีผลใช้บังคับมากว่า 1 ปี แต่ยังพบว่าหลายบริษัทต่ออายุกรมธรรม์โดยใช้ระดับ 1 (ไม่มีส่วนลด) แม้ผู้เอาประกันภัยจะไม่มีการเคลมหรือเป็นฝ่ายถูกก็ตาม คปภ. ย้ำว่า ผู้เอาประกันภัยควรได้รับสิทธิประโยชน์ส่วนลดเบี้ยอย่างถูกต้อง หากมีพฤติกรรมขับขี่ที่ดี และบริษัทต้องแจ้งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้ชัดเจน พร้อมทั้งขอความยินยอมในการตรวจสอบข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อประกอบการพิจารณารับประกันภัย ทั้งนี้ คปภ. กำชับให้บริษัทประกันภัยปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนอย่างเคร่งครัด มีหลักฐานแสดงการดำเนินงานที่โปร่งใส เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้เอาประกันภัย และสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยไทย

AI Engagement and Insurance Industry

สำนักงาน คปภ. จัดบรรยายพิเศษหัวข้อ “AI Engagement and Insurance Industry” เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 260 คน ทั้งในสถานที่และผ่านระบบออนไลน์ พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก คุณมยุรินทร์ สุทธิรัตนพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงาน คปภ. เน้นย้ำความสำคัญของการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันและการกำกับดูแล คุณชัยพนธ์ ชวาลวณิชชัย อุปนายกสมาคมเอไอเทคประเทศไทย ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับบทบาท AI ที่กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรม พร้อมนำเสนอ 4 ระดับการบูรณาการ AI ได้แก่ AI for Everyone – ความรู้พื้นฐาน AI Automation Workflow – เสริมงานอัตโนมัติ AI Agent – AI ทำงานแทนมนุษย์ AI-Driven Organization – องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI การบรรยายเน้นว่า ความสำเร็จของ AI ขึ้นอยู่กับ Mindset การเรียนรู้ การใช้ Prompt อย่างชาญฉลาด และการคำนึงถึง Data Privacy กิจกรรมนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของ คปภ. ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล เพื่อยกระดับการกำกับดูแลและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย

สำนักงาน คปภ. โดยศูนย์ CIT จัดกิจกรรม “INTENSIVE BOOTCAMP 2025

สำนักงาน คปภ. โดยศูนย์ CIT จัดกิจกรรม “INTENSIVE BOOTCAMP 2025” ระหว่างวันที่ 16–17 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรม ทีเค.พาเลซ กรุงเทพฯ เพื่อเสริมศักยภาพ 25 ทีมสุดท้าย ในโครงการ OIC InsurTech Award 2025 ก่อนเข้าสู่การคัดเลือก 10 ทีมสุดท้ายรอบชิง ภายใน Bootcamp ผู้เข้าแข่งขันได้รับคำแนะนำเชิงลึกจากที่ปรึกษาและวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งด้านการพัฒนา Prototype สู่ Product จริง การสร้าง Use Case ที่ตอบโจทย์ตลาด และการนำเสนอผลงาน (Pitching Technique) พร้อม Workshop แบบเข้มข้น นอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดตัว คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่จะคัดเลือกทีมเข้าสู่รอบ Final Round ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ความเคลื่อนไหวทั้งหมดสามารถติดตามได้ทาง CIT – Center of InsurTech Thailand และช่องทางออนไลน์ของสำนักงาน คปภ.

สำนักงาน คปภ. ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลพร้อมกัน 2 ฉบับ คือ ISO/IEC 27001:2022

สำนักงาน คปภ. ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลพร้อมกัน 2 ฉบับ คือ ISO/IEC 27001:2022 (ระบบการจัดการความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล) และ ISO/IEC 27701:2019 (ระบบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล) จากบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 การรับรองนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่ากระบวนการทำงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ คปภ. มีความมั่นคง ปลอดภัย และสอดคล้องกับกฎหมาย PDPA โดยครอบคลุมการบริหารจัดการศูนย์กลางข้อมูลผู้เอาประกันภัยทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย (IBS Life และ IBS Non-Life) ความสำเร็จดังกล่าวไม่เพียงช่วยยกระดับการดำเนินงานของ คปภ. แต่ยังสร้าง ความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ว่าข้อมูลที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานจะได้รับการคุ้มครองอย่างมีมาตรฐาน โปร่งใส และปลอดภัย พร้อมทั้งตอกย้ำบทบาทของ คปภ. ในฐานะองค์กรกำกับดูแลที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน.

การประกวด “นักสื่อสารประกันภัยรุ่นใหม่” ปี 2568 (Insurefluencer The New GEN 2025)

การประกวด “นักสื่อสารประกันภัยรุ่นใหม่” ปี 2568 (Insurefluencer The New GEN 2025) ระดับประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการดำเนินการประกวด “นักสื่อสารประกันภัยรุ่นใหม่” ปี 2568 (Insurefluencer The New GEN 2025) ระดับประเทศ เพื่อหาคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถด้านการสื่อสารและการสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้านประกันภัย ให้เข้าถึงสังคมยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในรอบคัดเลือกเบื้องต้น คณะกรรมการได้ดำเนินการพิจารณาผลงานของผู้เข้าประกวดจากทั่วประเทศ โดยให้ความสำคัญทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสารเนื้อหาให้เข้าใจง่าย และการสร้างแรงบันดาลใจแก่สังคม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแสดงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและเสริมสร้างบุคลากรคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย

คณะกรรมสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยชุดใหม่ได้เข้าพบเลขาธิการ คปภ.

คณะกรรมสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยชุดใหม่ได้เข้าพบเลขาธิการ คปภ. เพื่อหารือแนวทางการทำงานร่วมกันนำโดย ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา นายกสมาคม บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด คุณศุภกิจ ศุภบรรณพงษ์ อุปนายก บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด คุณจิตวุฒิ ศศิบุตร เลขาธิการ บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด คุณจงจิตต์ เดชอุดมวิทยา เหรัญญิก บริษัท ล็อคตั้น วัฒนา อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คุณปัญญวัฒน์ โพธิ์ศรีทอง ปฎิคม บริษัท ฟิน อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด คุณนวพร อรุณสวัสดี นายทะเบียน บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด และคณะกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคม ได้เข้าพบ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) การเข้าพบครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างสมาคมและสำนักงาน คปภ. เพื่อยกระดับวิชาชีพนายหน้าประกันภัยไทย เสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัย และขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและผู้ประกอบวิชาชีพ

คปภ. ห่วงใยประชาชน แนะรับมือภัยธรรมชาติด้วยประกันภัย

ท่ามกลางสถานการณ์ฝนตกหนัก พายุลมแรง และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในฤดูฝนปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แสดงความห่วงใยต่อ ประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ พร้อมแนะให้ใช้ ประกันภัย เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ประกันภัยที่ควรให้ความสำคัญในฤดูฝนนี้ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 – คุ้มครองอุบัติเหตุและภัยธรรมชาติ ประกันอัคคีภัยที่ขยายความคุ้มครองภัยธรรมชาติ – เช่น น้ำท่วม ลมพายุ ลูกเห็บ แผ่นดินไหว ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) – คุ้มครองครอบคลุมทั้งไฟไหม้ ฟ้าผ่า รถชน น้ำท่วม ฯลฯ ประกันภัยพืชผลการเกษตร – เช่น ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทุเรียน กรณี “ป้ายโฆษณา” ต้องระวังเป็นพิเศษ ในฤดูพายุลมแรง ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ติดตั้งบนอาคารหรือดาดฟ้าอาจหักโค่นและก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลภายนอก ซึ่ง กฎหมายกำหนดให้เจ้าของต้องทำประกันภัยความรับผิดชอบตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ ข้อแนะนำจาก คปภ. หมั่น ตรวจสอบความคุ้มครองของกรมธรรม์ ที่มีอยู่ ว่าหมดอายุหรือยัง ควร เลือกซื้อประกันภัยที่ครอบคลุมภัยธรรมชาติ หากมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถติดต่อสายด่วน คปภ. โทร. 1186 ภัยธรรมชาติไม่อาจคาดเดาได้ แต่สามารถ “รับมือ” ได้ด้วยการวางแผนล่วงหน้า ผ่าน การทำประกันภัยที่เหมาะสม ทั้งเพื่อชีวิต ทรัพย์สิน และธุรกิจของทุกคน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น คปภ. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประชาชนไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตด้วยความมั่นใจและความพร้อม

คปภ. จัดสัมมนาภาคอีสาน เสริมศักยภาพการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ จัดโครงการสัมมนา “เสริมสร้างความรู้และเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานด้านการพิจารณาและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัย” ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 26 – 27 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมอวานี จังหวัดขอนแก่น ครอบคลุมพื้นที่สำนักงาน คปภ. ภาค 3 (ขอนแก่น), ภาค 4 (นครราชสีมา) และภาค 5 (อุบลราชธานี) เป้าหมายสำคัญของการจัดสัมมนา ยกระดับมาตรฐานการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ให้มีรูปแบบที่ชัดเจนและเท่าเทียมทั่วประเทศ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกันในการให้บริการประชาชน เตรียมพร้อมรองรับการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการใช้งานระบบสารสนเทศ PPMS ระยะที่ 2 แนวทางการพัฒนา นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการฯ เปิดเผยว่า คปภ. กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระเบียบการพิจารณาและไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ให้รวมเป็นฉบับเดียว รองรับการบริการที่รวดเร็ว โปร่งใส และเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าให้การประสานงานข้อพิพาทมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นการส่งเรื่องกลับไปให้บริษัทประกันภัยเร่งดำเนินการก่อนเกิดเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะช่วยลดภาระประชาชนและเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบ การจัดสัมมนาครั้งนี้ถือเป็น “หมุดหมายสำคัญ” ในการปฏิรูประบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัย โดย ส่งเสริมบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ และความมั่นใจ ในการดูแลประชาชนอย่างเป็นธรรม สะดวก รวดเร็ว และสร้างมาตรฐานความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัยไทยอย่างยั่งยืน

คปภ. สมทบทุนศิริราชมูลนิธิ สนับสนุนการแพทย์และสาธารณสุขไทย

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นผู้แทนมอบเงินจำนวน 590,769.23 บาท สมทบทุนแก่ ศิริราชมูลนิธิ เพื่อใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเสริมสร้างศักยภาพด้านสาธารณสุขของประเทศ โดยมี ผศ.นพ.ธารา วงศ์วิริยางกูร รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้รับมอบ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ การสนับสนุนในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ คปภ. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ที่ให้ความสำคัญกับการร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพให้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม คปภ. แสดงบทบาทเชิงรุกในการขับเคลื่อนสังคมไทย ด้วยการสนับสนุนภารกิจของศิริราชมูลนิธิ อันเป็นการร่วมสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของประชาชนในระยะยาว

คปภ. ขับเคลื่อนประกันภัยไทยสู่ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ด้วย 5 มาตรการหลัก

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้าร่วมเวทีเสวนา “Multi-Regulatory Approach: Enabling Thailand’s Climate Transition” ร่วมกับหน่วยงานกำกับหลักจากภาคการเงินและตลาดทุน เพื่อร่วมผลักดันประเทศไทยสู่การเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน ดร.อายุศรี คำบรรลือ ผู้ช่วยเลขาธิการ คปภ. ได้นำเสนอ 5 มาตรการหลัก ของภาคประกันภัยในการรับมือกับ Climate Change ได้แก่ 1. เสริมความมั่นคงทางการเงินและการบริหารความเสี่ยง ใช้แบบจำลองสถานการณ์ (Stress Test) โดยเฉพาะกรณีน้ำท่วม วิเคราะห์ข้อมูลประกันภัยในระดับรายตำบล เพื่อวางมาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยในพื้นที่เสี่ยง 2. บริหารความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (ESG in Climate Risk) จัดทำแนวทาง Climate Risk Management Guideline ที่ครอบคลุม Governance, Risk Management และ Disclosure ส่งเสริมการประเมินผลกระทบจาก Climate Risk เข้าสู่ระบบ ORSA ของบริษัทประกัน 3. ส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูล ESG จัดทำแนวทางการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Disclosure Framework) ยกระดับความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4. สนับสนุนการลงทุนสีเขียว (Green Investment) อนุญาตให้บริษัทประกันลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดและความยั่งยืน อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายการลงทุนตามประกาศ คปภ. 5. พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อความยั่งยืน ผลักดันผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงง่าย เช่น ประกันภัย 7–10 บาท ส่งเสริมการประกันภัยพืชผลเพื่อเกษตรกร สนับสนุนประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV Insurance) นอกจากนี้ คปภ. ยังสนับสนุนกิจกรรมจูงใจ เช่น การมอบรางวัลบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG เพื่อสร้างแรงผลักดันเชิงบวกต่อภาคธุรกิจประกันภัย คปภ. ย้ำว่า การใช้เครื่องมือประกันภัยเป็นแนวทางสำคัญในการบริหารความเสี่ยงจาก Climate Change โดยควบคู่กับการใช้กลไกดิจิทัลอย่าง E-policy เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

คปภ. จับมือภาคประกันภัย ส่งมอบกำลังใจและสิ่งของช่วยเหลือชายแดนไทย–กัมพูชา

25 กรกฎาคม 2568 – สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ลงพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ เพื่อส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้แก่ ทหารไทยและประชาชนในพื้นที่ชายแดน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา การลงพื้นที่ในครั้งนี้นำโดย สำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. จังหวัดศรีสะเกษ และสุรินทร์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัยในการจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนการทำงานของทหารที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเสียสละ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยได้ แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจแก่กำลังพล ที่ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ พร้อมขอให้สถานการณ์ชายแดนคลี่คลายโดยเร็ว เพื่อความสงบสุขของประชาชนและเสถียรภาพของประเทศในระยะยาว การส่งมอบสิ่งของในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทบาทของภาคประกันภัยในการอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ ทั้งในยามปกติและยามวิกฤต เพื่อสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน

พื้นที่โฆษณา

ติดต่อที่ patcharin@tiba.or.th เพื่อรับข้อมูลการสมัครสมาชิก