หน้าแรก

25 กรกฎาคม 2568 – สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ลงพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ เพื่อส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้แก่ ทหารไทยและประชาชนในพื้นที่ชายแดน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา การลงพื้นที่ในครั้งนี้นำโดย สำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. จังหวัดศรีสะเกษ และสุรินทร์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัยในการจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนการทำงานของทหารที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเสียสละ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยได้ แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจแก่กำลังพล ที่ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ พร้อมขอให้สถานการณ์ชายแดนคลี่คลายโดยเร็ว เพื่อความสงบสุขของประชาชนและเสถียรภาพของประเทศในระยะยาว การส่งมอบสิ่งของในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทบาทของภาคประกันภัยในการอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ ทั้งในยามปกติและยามวิกฤต เพื่อสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เดินหน้ายกระดับการตรวจสอบและกำกับดูแลบริษัทประกันภัยทั่วประเทศ ผ่านเครื่องมือใหม่ “Examination Form” ซึ่งเป็นแบบประเมินการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการชุดย่อย และหน่วยงานกำกับภายใน (Key Control Function) นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงาน คปภ. เปิดเผยว่า แบบประเมินดังกล่าวได้ถูกพัฒนาโดยสายตรวจสอบ นำโดย นายโสรัจจ์ แรกสกุลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการสายตรวจสอบ เพื่อใช้ติดตามความเสี่ยงหลักและประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทประกันภัย โดยผลการประเมินต้องได้รับการรับรองจากคณะกรรมการระดับสูงของบริษัทก่อนจัดส่งมายัง คปภ. จากการรวบรวมข้อมูลใน ไตรมาส 1/2568 พบว่า บริษัทส่วนใหญ่มีการกำกับดูแลภายในที่มีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ยังมีบางบริษัทที่พบข้อบกพร่องเล็กน้อยในประเด็นเฉพาะ เช่น การประเมินคณะกรรมการอิสระ หรือการติดตามงานของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ออกหนังสือให้เร่งดำเนินการแก้ไขแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการนำแบบประเมิน Examination Form ไปใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือของการ ประเมินความเสี่ยงรวมของบริษัท (Composite Risk Rating: CRR) เพื่อกำหนดแนวทางการตรวจสอบเชิงลึกและมาตรการกำกับดูแลเพิ่มเติม ผลลัพธ์เชิงบวก: กระตุ้นธรรมาภิบาล เสริมความเชื่อมั่น หลายบริษัทให้ Feedback ในเชิงบวก ต่อแบบประเมินนี้ว่า ช่วยกระตุ้นให้คณะกรรมการบริษัท และหน่วยงานกำกับภายในให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการประเมินตนเอง และยกระดับการบริหารความเสี่ยงจากภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบบประเมินรอบไตรมาส 2/2568 ได้ถูกส่งครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 และขณะนี้สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างวิเคราะห์ผลเพื่อกำหนดรอบถัดไปให้เหมาะสมยิ่งขึ้น รองเลขาธิการ คปภ. ย้ำว่า เครื่องมือประเมินนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเสถียรภาพในอุตสาหกรรมประกันภัย ป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ และเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบประกันภัยไทยในระยะยาว

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เปิดการศึกษาอบรม “หลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่นที่ 13” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจาก นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมปาฐกถาพิเศษ และ นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมอบรม หลักสูตร วปส. รุ่นที่ 13 นี้ มีผู้เข้าร่วมอบรมรวม 150 คน จากภาครัฐ ภาคการเงิน ภาคธุรกิจประกันภัย และภาคเอกชน โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำในภาคธุรกิจประกันภัย และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนโยบาย รองรับการบริหารจัดการความเสี่ยงในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในโอกาสนี้ นายลวรณ ได้กล่าวถึง 4 มิติความเสี่ยงสำคัญ ที่ควรใช้เครื่องมือประกันภัยในการบริหารจัดการ ได้แก่ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ ภัยไซเบอร์และเทคโนโลยี สังคมผู้สูงอายุ ด้าน เลขาธิการ คปภ. ย้ำเป้าหมายของหลักสูตร คือ การสร้าง Insurance Ambassador ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านประกันภัยอย่างถูกต้อง พร้อมนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรและสังคม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน หลักสูตร วปส. รุ่นนี้จัดขึ้นระหว่างเดือนกรกฎาคม – พฤศจิกายน 2568 โดยผู้เข้าอบรมจะต้องจัดทำ “รายงานการศึกษากลุ่ม” ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายของภาคประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพ

ชูแนวคิด “สุขคู่ขนาน สานทุกชีวิต พลิกอนาคต” เสริมความมั่นคงด้วยประกันชีวิตและสุขภาพ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับ 3 องค์กรภาคเอกชนในอุตสาหกรรมประกันชีวิต ได้แก่ สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน และกองทุนประกันชีวิต จัดงาน “วันประกันชีวิตแห่งชาติ” ครั้งที่ 24 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี งานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สุขคู่ขนาน สานทุกชีวิต พลิกอนาคต” โดยมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านประกันชีวิตและสุขภาพ ให้กับประชาชน พร้อมกระตุ้นให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีหลักประกันที่มั่นคงในยุคที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากโรคระบาด ภัยพิบัติธรรมชาติ และการเข้าสู่สังคมสูงวัย ดร.ชญานิน เกิดผลงาม รองเลขาธิการ คปภ. กล่าวเปิดงานและเน้นย้ำว่า “การประกันชีวิตและสุขภาพคือเครื่องมือสำคัญในการวางแผนชีวิตและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว”แม้ว่าปัจจุบันอัตราการถือกรมธรรม์ของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว แต่อุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยมีความตั้งใจจะขยายความคุ้มครองให้เข้าถึงประชาชนได้ครอบคลุมและตรงจุดยิ่งขึ้น ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย บูธจากบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ การให้คำแนะนำด้านการเงินและการประกันภัย โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงาน บริการปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ คปภ. อย่างใกล้ชิด ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงความรู้ และได้รับบริการด้านประกันชีวิตอย่างสะดวกมากขึ้น อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญคือ การรณรงค์บริจาคโลหิต ซึ่งในปีนี้มีการระดมโลหิตจากภาคธุรกิจประกันชีวิตได้แล้วกว่า 7,536,300 ซีซี จากเป้าหมาย 10 ล้านซีซี สะท้อนพลังแห่งความร่วมมือในภาคประกันภัยที่ไม่เพียงดูแลชีวิต แต่ยังคืนคุณค่าให้กับสังคม สำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันชีวิตยังคงเดินหน้าสื่อสารให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของประกันชีวิต ในฐานะ กลไกบริหารความเสี่ยงที่จำเป็น ในโลกยุคใหม่ ที่ไม่เพียงดูแลเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ยังเป็นเครื่องมือออมเงิน และวางแผนการเงินระยะยาว เพราะความมั่นคงในชีวิต… เริ่มได้จากการมีหลักประกันที่เหมาะสมในวันนี้

#ค่าเสียหายจากน้ำท่วมทำไมบางคนได้เคลมบางคนไม่ได้.. เวลาเกิดน้ำท่วม บางบ้านได้เงินเคลม บางบ้านกลับไม่ได้รับอะไรเลยสาเหตุคือ “ความคุ้มครองไม่เท่ากัน” ค่ะ หลายคนเข้าใจว่าประกันบ้านทั่วไปจะครอบคลุมทุกภัยแต่ในความจริง “ภัยจากน้ำท่วม” มักเป็นส่วนที่ต้องซื้อเพิ่มในรูปแบบความคุ้มครองพิเศษและต้องดูด้วยว่า คุ้มครองเฉพาะตัวบ้าน หรือรวมทรัพย์สินภายในด้วย นายหน้าประกันภัย จะช่วยตรวจสอบและอธิบายให้เข้าใจว่าความเสี่ยงใดอยู่ในกรมธรรม์ และควรเสริมจุดไหนเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจในทุกฤดูฝน ………………………………………………. #สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ติดต่อสอบถาม/ปรึกษาได้ฟรีที่ 02-645-1133 https://www.tiba.or.th/ . #คปภ. #คุ้มครองผู้บริโภค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #สมาคมนายหน้าประกันภัย #ประกันบ้าน #ความรู้ประกันภัย #ทรัพย์สินภายใน #ประกันอัคคีภัย #บ้านเช่า #ประกันบ้านและคอนโด #ประกันรถ #น้ำท่วมรถ #ประกันภัยคอนโด #ประกันภัยน้ำท่วม

สำนักงาน คปภ. โดย สถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) จัดกิจกรรมปฐมนิเทศหลักสูตร วปส. รุ่นที่ 13 ระหว่างวันที่ 18–20 กรกฎาคม 2568 ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งในด้านวิชาการ ความเข้าใจระบบประกันภัย และการทำรายงานกลุ่ม (Group Project) ย้ำบทบาทผู้นำยุคใหม่ พร้อมรับมือความเสี่ยงรอบด้าน นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. กล่าวเปิดงาน พร้อมบรรยายถึงบทบาท คปภ. ในการกำกับธุรกิจประกันภัยให้ทันสมัย ยืดหยุ่น และมั่นคง โดยชูแผน Group-Wide Supervision แบบ Full Consolidation เริ่มใช้ปี 2569 และการยกระดับเกณฑ์ด้าน การคำนวณเงินสำรองประกันภัยตามความเสี่ยง การกำกับฐานะการเงินและความมั่นคงของบริษัทประกันภัย เกณฑ์ ESG และการชำระเบี้ยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การควบคุมตัวแทน-นายหน้าอย่างมีมาตรฐาน เสริมความรู้กฎหมาย-การศึกษากลุ่ม-สุขภาพ ในงานยังมีการบรรยายวิชาการจากผู้บริหาร คปภ. ได้แก่ “หลักการและกฎหมายประกันภัยที่ควรรู้” โดย นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ คปภ. แนะแนวการทำ Group Project โดย ดร.นิรัตน์ ทรัพย์ทวีธรรม บรรยายสุขภาพ “กินดี สุขภาพดี อายุยืนยาว” โดย อ. สง่า ดามาพงษ์ เสริมสัมพันธ์ด้วยกิจกรรม CSR ผู้เข้าอบรมยังได้ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร อ.ชะอำ เพื่อสร้างจิตสำนึกในการพัฒนาสังคมควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำที่มีคุณภาพในระบบประกันภัย การปฐมนิเทศ วปส. รุ่นที่ 13 ถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ เพื่อเตรียมผู้เข้าอบรมให้พร้อมเป็น ผู้นำรุ่นใหม่ของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ที่มีความรู้รอบด้าน สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง และพร้อมขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 สำนักงาน คปภ. จัดประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการมีส่วนร่วมด้านการประกันภัย ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคธุรกิจ หน่วยงานรัฐ และภาคประชาสังคม ร่วมหารือแนวทางเสริมสิทธิและการเข้าถึงระบบประกันภัยอย่างเท่าเทียมในทุกกลุ่มประชาชน ผ่าน 3 มาตรการหลัก ได้แก่: 1. มาตรการเร่งรัดการเยียวยาผู้เอาประกันภัย คปภ. ดำเนินการเชิงรุกในกรณีภัยพิบัติและอุบัติเหตุร้ายแรง 39 กรณี เช่น เหตุรถบัสพลิกคว่ำที่ปราจีนบุรี: จ่ายค่าสินไหม 21 ล้านบาท เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่: เปิดศูนย์ War Room บริการ 24 ชม. และช่วยเหลือแรงงานเมียนมา อุบัติเหตุรถพ่วงชนที่มอเตอร์เวย์สาย 7: จ่ายค่าสินไหมรวม 12 ล้านบาท 2. มาตรการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค เปิดใช้งาน ระบบสารสนเทศ PPMS ระยะที่ 2 ตั้งแต่ 14 ก.ค. 2568 เพื่อให้การรับเรื่องร้องเรียน ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และการติดต่อประสานงานกับบริษัทประกันภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม 3. ยกระดับระบบคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ดำเนินการ 3 มิติสำคัญ เพิ่มความคุ้มครอง พ.ร.บ. เป็น 20 ล้านบาทต่ออุบัติเหตุ (คาดบังคับใช้ ส.ค. 2568) เชื่อมข้อมูล พ.ร.บ. กับระบบตำรวจ (CRIMES Online) สนับสนุนการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ และออก e-Policy ผ่าน Insure Mall รณรงค์เชิงป้องกันในพื้นที่ต้นแบบ “ปราจีนฯ ยืนหนึ่ง ถนนปลอดภัย” เพื่อวิเคราะห์จุดเสี่ยงและป้องกันอุบัติเหตุใน 5 จุดสำคัญ ก่อนขยายผลต่อ ประเด็นหารือเพิ่มเติม แนวทางการเลือกซ่อมห้างหรือซ่อมอู่ในรถเก่าเกิน 5 ปี ข้อเสนอพัฒนา ระบบออนไลน์ที่รองรับการใช้งานของผู้พิการ ทุกประเภท เพื่อความเท่าเทียมในการเข้าถึงสิทธิด้านประกันภัย การประชุมครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของ คปภ. ในการสร้างระบบประกันภัยที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้จริง พร้อมปรับใช้เทคโนโลยีและกลไกเชิงรุก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเยียวยา ลดข้อร้องเรียน และสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยอย่างยั่งยืนในทุกภาคส่วนของสังคม

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จัดสัมมนาใหญ่ “การยกระดับการกำกับดูแล และตรวจสอบธุรกิจประกันภัย” ณ CDC Ballroom กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 400 คน จากทั้งบริษัทประกันชีวิต วินาศภัย สมาคมวิชาชีพ และผู้บริหาร คปภ. โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดงาน ปรับตัวรับมาตรฐานใหม่ TFRS17 พร้อมกรอบกำกับที่ทันสมัยการสัมมนาครั้งนี้เน้นการสร้างความเข้าใจร่วมกันเพื่อรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS17 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว โดย คปภ. ได้พัฒนา Supervisory Framework และ Early Warning System (EWS) เพื่อติดตามความเสี่ยงของบริษัทประกันอย่างเป็นระบบ และกำหนดให้ทุกบริษัทจัดทำ Risk Appetite อย่างชัดเจน เพื่อเสริมโครงสร้าง Risk Governance ให้แข็งแกร่ง ผลักดันการกำกับดูแลแบบรวมกลุ่ม (Group-Wide Supervision)เพื่อตอบรับโครงสร้างธุรกิจยุคใหม่ คปภ. เตรียมผลักดันแนวทาง Group-Wide Supervision แบบ Full Consolidation ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2569 เพื่อรองรับธุรกิจประกันในกลุ่มบริษัทเดียวกัน ให้สามารถบริหารความเสี่ยงและการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นภายใต้กรอบที่มั่นคง ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริง ปรับปรุงได้ทันต่อสถานการณ์ภายในงานมีการสะท้อนผลการประเมิน SAQ RCM และ Examination Form เพื่อให้ภาคธุรกิจนำข้อมูลไปวิเคราะห์ ปรับปรุงกระบวนการควบคุมภายใน การตรวจสอบ การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎหมายให้ทันต่อบริบทที่เปลี่ยนแปลง กำกับอย่างสร้างสรรค์ ตรวจสอบอย่างเข้มงวดเลขาธิการ คปภ. ย้ำว่า การกำกับดูแลจะต้องเป็นเชิงสร้างสรรค์ ควบคู่กับความเข้มงวด เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจและความมั่นคงของระบบ “คปภ. มุ่งยกระดับทั้งระบบธุรกิจประกันภัยไทยให้สอดรับกับมาตรฐานสากล และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน”

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดงานสัมมนาใหญ่ “MDRT DAY 2025” ภายใต้แนวคิด “Momentum to Success” ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีผู้บริหารสมาคมวิชาชีพ ตัวแทนประกันชีวิต และที่ปรึกษาการเงินเข้าร่วมอย่างคับคั่ง “Momentum to Success” = แรงส่งสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนเลขาธิการ คปภ. เน้นย้ำว่า ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากก้าวใหญ่เพียงครั้งเดียว แต่เป็นแรงส่งเล็ก ๆ ที่ต่อเนื่อง ซึ่งตรงกับแนวคิดของงานปีนี้ที่ต้องการจุดพลังให้ตัวแทนและที่ปรึกษาทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีจรรยาบรรณ และเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน บทบาทคนกลางประกันภัยคือหัวใจของระบบตัวแทนประกันชีวิตในฐานะ “คนกลางประกันภัย” มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงความเข้าใจด้านประกันภัยสู่ประชาชน ซึ่งถือเป็นกุญแจในการสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาวิชาชีพในระยะยาว แม้จะมีเทคโนโลยีหรือ AI เข้ามา แต่ “คน” ก็ยังเป็นหัวใจหลักของการประกันภัยที่แท้จริง โครงการสนับสนุนจาก คปภ. เพื่อยกระดับทั้งคนและระบบ OIC InsurTech Award: สนับสนุนนวัตกรรมในธุรกิจประกัน Responsible Voice: พัฒนาคอนเทนต์ทางการเงินที่ถูกต้องและมีความรับผิดชอบ Insurefluencer the new GEN: สร้างความเข้าใจเรื่องประกันภัยในกลุ่มเยาวชน OIC Be Smart First Jobber: ปูพื้นฐานให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่อาชีพในอุตสาหกรรมประกัน เลขาธิการ คปภ. ทิ้งท้ายว่า ปี 2025 จะเป็นปีแห่งแรงบันดาลใจ แบ่งปันความสำเร็จ และร่วมกันผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยให้มั่นคงและยั่งยืน

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) จัดการประชุม “OIC Meets CEO 2025” ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องชัยพฤกษ์ 2 หอประชุมกองทัพอากาศ กรุงเทพฯ โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธาน ร่วมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากภาคธุรกิจประกันภัยทั้งภาคชีวิตและวินาศภัย รวมถึงผู้แทนสมาคมวิชาชีพในอุตสาหกรรม เวทีหารือเชิงนโยบายเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยสู่อนาคตการประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีหารือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและภาคธุรกิจประกันภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้มีความมั่นคง ทันสมัย และยั่งยืน สอดคล้องกับพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีการหารือประเด็นสำคัญ 7 ด้าน ได้แก่: การกำกับดูแลความมั่นคงของธุรกิจประกันภัยทบทวนเกณฑ์ด้านการลงทุน การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยง การกำกับแบบรวมกลุ่ม (Group-wide Supervision) และการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG การรายงานทางการเงินตามมาตรฐาน IFRS 17ติดตามผลกระทบจากการใช้มาตรฐานใหม่ และวิเคราะห์ข้อมูลการเงินจากไตรมาส 1/2568 เพื่อวางแนวทางการกำกับที่ทันสมัย การใช้ประโยชน์จากข้อมูล Health Linkสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง และหารือร่วมกับภาคธุรกิจและ BDI ในการพัฒนาระบบ การควบคุมและป้องกันการฉ้อฉลประกันภัยกำหนดระบบตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง ส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูล และบริหารความเสี่ยงจากตัวแทนที่มีสถานะความเสี่ยงสูง ระบบคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยกระดับประสิทธิภาพระบบคุ้มครอง เพื่อเพิ่มความครอบคลุมและความเชื่อมั่นในประกันภัยภาคบังคับ การกำกับดูแลคนกลางประกันภัยปรับปรุงระบบ e-Licensing, ช่องทางชำระเบี้ยประกันผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์, และปรับปรุงข้อสอบสำหรับตัวแทน/นายหน้าให้สอดรับกับยุคใหม่ การพัฒนาบุคลากรและสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจรายงานความคืบหน้าโครงการ ALIP และส่งเสริมการยกระดับทักษะวิทยาศาสตร์ประกันภัยในระดับภูมิภาค สร้างกลไกการทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนการประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น รับฟังเสียงจากภาคธุรกิจ และร่วมกันกำหนดมาตรการที่จะยกระดับอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้เทียบเท่าสากล สำนักงาน คปภ. ยังมีแผนจัดประชุม “OIC Meets CEO” ครั้งที่ 3/2568 ใน…

#ประกันภัยบ้านจำเป็นแค่ไหนสำหรับคนอยู่คอนโด… แม้คอนโดจะมีประกันของนิติบุคคลดูแลอยู่แล้ว แต่ความคุ้มครองนั้นครอบคลุมเพียง “ตัวอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง” เท่านั้น เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องที่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล… ไม่อยู่ในความคุ้มครองของนิติบุคคลค่ะ หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือน้ำรั่วจากห้องข้างเคียงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของเราจะสามารถเคลมได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราได้มีประกันภัยทรัพย์สินเพิ่มเติมหรือเปล่า นายหน้าประกันภัย จะช่วยแนะนำแบบประกันเฉพาะสำหรับผู้พักอาศัยในคอนโดที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินภายในห้อง พร้อมเงื่อนไขที่ตรงกับการอยู่อาศัยจริง ………………………………………………. #สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ติดต่อสอบถาม/ปรึกษาได้ฟรีที่ 02-645-1133 https://www.tiba.or.th/ . #คปภ. #คุ้มครองผู้บริโภค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #สมาคมนายหน้าประกันภัย #ประกันบ้าน #ความรู้ประกันภัย #ทรัพย์สินภายใน #ประกันอัคคีภัย #บ้านเช่า #ประกันบ้านและคอนโด #ประกันรถ #น้ำท่วมรถ #ประกันภัยคอนโด

#ร้านค้าริมถนนโดนรถชนกระจกพังเคลมจากใคร…เคยไหม..?? อยู่ดี ๆมีรถเสียหลักพุ่งเข้ามาหน้าร้าน ทำกระจกแตกเสียหาย แบบนี้ต้องเคลมกับใคร ประกันของเรา หรือประกันของรถคันนั้น? จริง ๆ แล้วสามารถเรียกร้องจากประกันรถได้แต่ในหลายกรณี หากอีกฝ่ายไม่มีประกัน หรือปฏิเสธความรับผิดชอบเจ้าของร้านจะต้องใช้สิทธิ์เคลมจากประกันภัยทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่ง จะได้รับการชดเชยก็ต่อเมื่อมีการระบุความคุ้มครองครอบคลุม “ทรัพย์สินจากอุบัติเหตุภายนอก” นายหน้าจะช่วยคุณเตรียมความพร้อมในแง่ของ “เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง” เพื่อไม่ให้การดำเนินธุรกิจของคุณต้องสะดุด ………………………………………………. #สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ติดต่อสอบถาม/ปรึกษาได้ฟรีที่ 02-645-1133 https://www.tiba.or.th/ . #คปภ. #คุ้มครองผู้บริโภค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #สมาคมนายหน้าประกันภัย #ประกันบ้าน #ความรู้ประกันภัย #ทรัพย์สินภายใน #ประกันอัคคีภัย #บ้านเช่า #ประกันบ้านและคอนโด #ประกันรถ #น้ำท่วมรถ #ประกันภัยร้านค้า

#ซื้อประกันครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มยังไง…ปรึกษานายหน้าก่อนดีที่สุด สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มสนใจเรื่องประกันวินาศภัย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ หรือธุรกิจ คำถามที่มักเกิดขึ้นเสมอคือ “ควรเริ่มจากตรงไหน..?”เพราะประกันภัยไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปที่ซื้อจากชั้นวางได้เลย แต่ต้องอิงจากความเสี่ยงเฉพาะตัว ลักษณะการใช้งาน สถานที่ และไลฟ์สไตล์ของผู้เอาประกัน สิ่งที่ดูเหมือน “เหมือนกัน” อาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในรายละเอียด นายหน้าประกันภัย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะเราจะช่วยวิเคราะห์ สอบถาม และเลือกแผนที่เหมาะสมที่สุดให้ช่วยให้คุณเริ่มต้นอย่างมั่นใจ ไม่ต้องลองผิดลองถูกกับกรมธรรม์ที่อาจไม่ตอบโจทย์นั่นเองค่ะ ………………………………………………. #สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ติดต่อสอบถาม/ปรึกษาได้ฟรีที่ 02-645-1133 https://www.tiba.or.th/ . #คปภ. #คุ้มครองผู้บริโภค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #สมาคมนายหน้าประกันภัย #ประกันบ้าน #ความรู้ประกันภัย #ทรัพย์สินภายใน #ประกันอัคคีภัย #บ้านเช่า #ประกันบ้านและคอนโด #ประกันรถ #น้ำท่วมรถ

คืบหน้าคดีนายหน้าประกันภัยหลอกเก็บเบี้ยไม่ทำ พ.ร.บ. ให้นักศึกษา ม.ขอนแก่น สำนักงาน คปภ. รายงานความคืบหน้ากรณี นายบัณฑิต จำปาแขม นายหน้าประกันภัย ตั้งโต๊ะรับชำระเบี้ย พ.ร.บ. และต่อภาษีใน ม.ขอนแก่น แต่ไม่ดำเนินการจัดทำกรมธรรม์และต่อภาษีจริง ทำให้นักศึกษาเสียหายกว่า 57 ราย การดำเนินการ คปภ. ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที และให้คำแนะนำผู้เสียหายในการแจ้งความ บริษัท ศรีกรุงโบรกเกอร์ จำกัด เยียวยาโดยจัดทำกรมธรรม์ใหม่ให้ครบทุกคน คปภ. แจ้งข้อหานายบัณฑิต ฐานฉ้อโกงและฉ้อฉลประกันภัย เพิกถอนใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย และห้ามขอใหม่เป็นเวลา 5 ปี แนวทางป้องกันในอนาคต เบี้ยประกันต้อง โอนเข้าบัญชีบริษัทโดยตรง หากตัวแทนรับเงินสด ต้องส่งบริษัทภายใน 24 ชั่วโมง หากฝ่าฝืน บริษัทต้อง ยกเลิกสัญญาแต่งตั้ง และส่งข้อมูลให้ คปภ. บันทึกในระบบป้องกันการฉ้อฉล คปภ. ยืนยันเร่งคุมเข้มและยกระดับมาตรการตรวจสอบเพื่อคุ้มครองประชาชนในระบบประกันภัยไทย.

คปภ. ผนึกกำลังธุรกิจประกันภัย ร่วมบริจาคโลหิต ตั้งเป้า 10 ล้านซีซี เสริมคลังเลือดสภากาชาดไทย สำนักงาน คปภ. ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย จัดกิจกรรม “บริจาคโลหิตเนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 24” ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โดยมีนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดงาน พร้อมผู้บริหารจากสมาคมและบริษัทประกันชีวิตเข้าร่วม กิจกรรมนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 24 ภายใต้โครงการ “รวมพลังประกันภัยให้โลหิต ปีที่ 2” ตั้งเป้าหมายจัดหาโลหิตให้ได้ 10 ล้านซีซีภายในปี 2568 เพื่อใช้เป็นเลือดสำรองช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยจะจัดรวม 4 ครั้งตลอดปี และยังเหลืออีก 2 ครั้งในวันที่ 22 กันยายน และ 22 ธันวาคม 2568 เลขาธิการ คปภ. เน้นว่า “โลหิตยังไม่มีสิ่งใดทดแทนได้” การบริจาคจึงเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งช่วยต่อชีวิตและส่งเสริมสุขภาพของผู้บริจาค พร้อมเชิญชวนคนในวงการประกันภัยและประชาชนทั่วไป ร่วมกันเป็น “ผู้ให้” เพื่อสังคมที่ยั่งยืน.