หน้าแรก

ตารางการขอต่อใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย

ที.ไอ.ไอ. ไทยรี
ต่ออายุครั้งที่ 1 คลิก คลิก
ต่ออายุครั้งที่ 2
ต่ออายุครั้งที่ 3
ต่ออายุครั้งที่ 4 ขึ้นไป คลิก คลิก

อบรมขอรับใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย  :   คลิก

กองทุนประกันวินาศภัย เป็นที่พึ่งของผู้เอาประกันภัยเมื่อบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจประกันวินาศภัยมั่นคง ยั่งยืนและมีความสามารถในการแข่งขัน

วีดีโอติวสอบการขอรับใบอนุญาต

  • All
  • กูรูประกัน
  • ข่าวสารจาก คปภ.

ประกันภัยบ้านจำเป็นแค่ไหนสำหรับคนอยู่คอนโด

#ประกันภัยบ้านจำเป็นแค่ไหนสำหรับคนอยู่คอนโด… แม้คอนโดจะมีประกันของนิติบุคคลดูแลอยู่แล้ว แต่ความคุ้มครองนั้นครอบคลุมเพียง “ตัวอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง” เท่านั้น เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องที่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล… ไม่อยู่ในความคุ้มครองของนิติบุคคลค่ะ หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือน้ำรั่วจากห้องข้างเคียงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของเราจะสามารถเคลมได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราได้มีประกันภัยทรัพย์สินเพิ่มเติมหรือเปล่า นายหน้าประกันภัย จะช่วยแนะนำแบบประกันเฉพาะสำหรับผู้พักอาศัยในคอนโดที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินภายในห้อง พร้อมเงื่อนไขที่ตรงกับการอยู่อาศัยจริง ………………………………………………. #สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ติดต่อสอบถาม/ปรึกษาได้ฟรีที่ 02-645-1133 https://www.tiba.or.th/ . #คปภ. #คุ้มครองผู้บริโภค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #สมาคมนายหน้าประกันภัย #ประกันบ้าน #ความรู้ประกันภัย #ทรัพย์สินภายใน #ประกันอัคคีภัย #บ้านเช่า #ประกันบ้านและคอนโด #ประกันรถ #น้ำท่วมรถ #ประกันภัยคอนโด

ร้านค้าริมถนนโดนรถชนกระจกพังเคลมจากใคร

#ร้านค้าริมถนนโดนรถชนกระจกพังเคลมจากใคร…เคยไหม..?? อยู่ดี ๆมีรถเสียหลักพุ่งเข้ามาหน้าร้าน ทำกระจกแตกเสียหาย แบบนี้ต้องเคลมกับใคร ประกันของเรา หรือประกันของรถคันนั้น? จริง ๆ แล้วสามารถเรียกร้องจากประกันรถได้แต่ในหลายกรณี หากอีกฝ่ายไม่มีประกัน หรือปฏิเสธความรับผิดชอบเจ้าของร้านจะต้องใช้สิทธิ์เคลมจากประกันภัยทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่ง จะได้รับการชดเชยก็ต่อเมื่อมีการระบุความคุ้มครองครอบคลุม “ทรัพย์สินจากอุบัติเหตุภายนอก” นายหน้าจะช่วยคุณเตรียมความพร้อมในแง่ของ “เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง” เพื่อไม่ให้การดำเนินธุรกิจของคุณต้องสะดุด ………………………………………………. #สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ติดต่อสอบถาม/ปรึกษาได้ฟรีที่ 02-645-1133 https://www.tiba.or.th/ . #คปภ. #คุ้มครองผู้บริโภค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #สมาคมนายหน้าประกันภัย #ประกันบ้าน #ความรู้ประกันภัย #ทรัพย์สินภายใน #ประกันอัคคีภัย #บ้านเช่า #ประกันบ้านและคอนโด #ประกันรถ #น้ำท่วมรถ #ประกันภัยร้านค้า

ซื้อประกันครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มยังไง?

#ซื้อประกันครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มยังไง…ปรึกษานายหน้าก่อนดีที่สุด สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มสนใจเรื่องประกันวินาศภัย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ หรือธุรกิจ คำถามที่มักเกิดขึ้นเสมอคือ “ควรเริ่มจากตรงไหน..?”เพราะประกันภัยไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปที่ซื้อจากชั้นวางได้เลย แต่ต้องอิงจากความเสี่ยงเฉพาะตัว ลักษณะการใช้งาน สถานที่ และไลฟ์สไตล์ของผู้เอาประกัน สิ่งที่ดูเหมือน “เหมือนกัน” อาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในรายละเอียด นายหน้าประกันภัย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะเราจะช่วยวิเคราะห์ สอบถาม และเลือกแผนที่เหมาะสมที่สุดให้ช่วยให้คุณเริ่มต้นอย่างมั่นใจ ไม่ต้องลองผิดลองถูกกับกรมธรรม์ที่อาจไม่ตอบโจทย์นั่นเองค่ะ ………………………………………………. #สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ติดต่อสอบถาม/ปรึกษาได้ฟรีที่ 02-645-1133 https://www.tiba.or.th/ . #คปภ. #คุ้มครองผู้บริโภค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #สมาคมนายหน้าประกันภัย #ประกันบ้าน #ความรู้ประกันภัย #ทรัพย์สินภายใน #ประกันอัคคีภัย #บ้านเช่า #ประกันบ้านและคอนโด #ประกันรถ #น้ำท่วมรถ

คืบหน้าคดีนายหน้าประกันภัยหลอกเก็บเบี้ยไม่ทำ พ.ร.บ. ให้นักศึกษา ม.ขอนแก่น

คืบหน้าคดีนายหน้าประกันภัยหลอกเก็บเบี้ยไม่ทำ พ.ร.บ. ให้นักศึกษา ม.ขอนแก่น สำนักงาน คปภ. รายงานความคืบหน้ากรณี นายบัณฑิต จำปาแขม นายหน้าประกันภัย ตั้งโต๊ะรับชำระเบี้ย พ.ร.บ. และต่อภาษีใน ม.ขอนแก่น แต่ไม่ดำเนินการจัดทำกรมธรรม์และต่อภาษีจริง ทำให้นักศึกษาเสียหายกว่า 57 ราย การดำเนินการ คปภ. ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที และให้คำแนะนำผู้เสียหายในการแจ้งความ บริษัท ศรีกรุงโบรกเกอร์ จำกัด เยียวยาโดยจัดทำกรมธรรม์ใหม่ให้ครบทุกคน คปภ. แจ้งข้อหานายบัณฑิต ฐานฉ้อโกงและฉ้อฉลประกันภัย เพิกถอนใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย และห้ามขอใหม่เป็นเวลา 5 ปี แนวทางป้องกันในอนาคต เบี้ยประกันต้อง โอนเข้าบัญชีบริษัทโดยตรง หากตัวแทนรับเงินสด ต้องส่งบริษัทภายใน 24 ชั่วโมง หากฝ่าฝืน บริษัทต้อง ยกเลิกสัญญาแต่งตั้ง และส่งข้อมูลให้ คปภ. บันทึกในระบบป้องกันการฉ้อฉล คปภ. ยืนยันเร่งคุมเข้มและยกระดับมาตรการตรวจสอบเพื่อคุ้มครองประชาชนในระบบประกันภัยไทย.

คปภ. ผนึกกำลังธุรกิจประกันภัย ร่วมบริจาคโลหิต ตั้งเป้า 10 ล้านซีซี เสริมคลังเลือดสภากาชาดไทย

คปภ. ผนึกกำลังธุรกิจประกันภัย ร่วมบริจาคโลหิต ตั้งเป้า 10 ล้านซีซี เสริมคลังเลือดสภากาชาดไทย สำนักงาน คปภ. ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย จัดกิจกรรม “บริจาคโลหิตเนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 24” ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โดยมีนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดงาน พร้อมผู้บริหารจากสมาคมและบริษัทประกันชีวิตเข้าร่วม กิจกรรมนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 24 ภายใต้โครงการ “รวมพลังประกันภัยให้โลหิต ปีที่ 2” ตั้งเป้าหมายจัดหาโลหิตให้ได้ 10 ล้านซีซีภายในปี 2568 เพื่อใช้เป็นเลือดสำรองช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยจะจัดรวม 4 ครั้งตลอดปี และยังเหลืออีก 2 ครั้งในวันที่ 22 กันยายน และ 22 ธันวาคม 2568 เลขาธิการ คปภ. เน้นว่า “โลหิตยังไม่มีสิ่งใดทดแทนได้” การบริจาคจึงเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งช่วยต่อชีวิตและส่งเสริมสุขภาพของผู้บริจาค พร้อมเชิญชวนคนในวงการประกันภัยและประชาชนทั่วไป ร่วมกันเป็น “ผู้ให้” เพื่อสังคมที่ยั่งยืน.

เลขาธิการ คปภ. ปลุกพลังตัวแทนประกันชีวิต บนเวที THAIFA CONVENTION 2025

เลขาธิการ คปภ. ปลุกพลังตัวแทนประกันชีวิต บนเวที THAIFA CONVENTION 2025 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เปิดงาน THAIFA CONVENTION 2025 ภายใต้แนวคิด “Crafting Image, Building Legacy – ภาพลักษณ์ สู่ ภาพพจน์” เพื่อยกระดับบทบาทตัวแทนประกันชีวิตยุคใหม่จาก “ผู้ขาย” สู่ “ที่ปรึกษา” ที่สร้างคุณค่าและความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืน ภายในงานมีตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินจากทั่วประเทศกว่า 20,000 คนเข้าร่วม พร้อมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ระดับชาติและนานาชาติ โดยเลขาธิการ คปภ. เน้นว่า “ภาพลักษณ์” คือสิ่งที่คนเห็น แต่ “ภาพพจน์” คือสิ่งที่ลูกค้าเชื่อมั่นและยึดมั่นในระยะยาว นอกจากนี้ ยังชื่นชมบทบาทของ THAIFA ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำถึงความสำคัญของตัวแทน ซึ่งยังครองสัดส่วนช่องทางขายมากกว่า 50% ของตลาดประกันชีวิตไทยจากเบี้ยรวมกว่า 650,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เวทีนี้ถือเป็นพลังสำคัญในการผลักดันตัวแทนไทยให้เติบโตอย่างมืออาชีพ มีภาพพจน์ที่ดี และสร้างความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมประกันชีวิตอย่างยั่งยืน.

คปภ. ร่วมแข่งขันฟุตบอล 7 คน เสริมสัมพันธ์ธุรกิจประกันชีวิตไทย

คปภ. ร่วมแข่งขันฟุตบอล 7 คน เสริมสัมพันธ์ธุรกิจประกันชีวิตไทย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย จัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน เชื่อมความสัมพันธ์ธุรกิจประกันชีวิต ณ สนาม Super Star Arena ลาดพร้าว 80 โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยผู้บริหารสมาคมฯ นำโดยนางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมฯ และผู้บริหารจากบริษัทประกันชีวิตหลายแห่งเข้าร่วมอย่างคับคั่ง กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในวงการประกันชีวิต ส่งเสริมสุขภาพกายใจ และสร้างบรรยากาศแห่งความสามัคคี โดยมีทีมจากหลายบริษัทเข้าร่วมการแข่งขันอย่างคึกคัก เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า “การแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมประกันชีวิตจะได้กระชับความสัมพันธ์ และร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจให้มั่นคงและยั่งยืน” การแข่งขันครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่ง และมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล สมาคม และผู้ประกอบการในธุรกิจประกันชีวิตไทยอย่างแท้จริง.

คปภ. สั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันภัย” เพิ่มทุนเร่งด่วน 30 ล้านบาท ภายในกรกฎาคม 2568 พร้อมคงคำสั่งหยุดรับประกันภัยใหม่ชั่วคราว เพื่อคุ้มครองผู้เอาประกันภัย

สำนักงาน คปภ. ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 28/2568 ให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาทภายในเดือนกรกฎาคม 2568 เพื่อแก้ไขฐานะการเงินและเสริมสภาพคล่อง พร้อมย้ำชัดว่ายังคงคำสั่ง “หยุดรับประกันภัยใหม่ชั่วคราว” ตามคำสั่งเดิม เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย ก่อนหน้านี้ สำนักงาน คปภ. ได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 12/2568 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 สั่งให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย แก้ไขปัญหาฐานะการเงินและหยุดรับประกันภัยใหม่เป็นการชั่วคราว โดยปัจจุบันบริษัทได้มีความคืบหน้าในบางส่วน เช่น การเจรจาประนอมหนี้ค่าสินไหมทดแทน การเจรจาขายกิจการ รวมถึงแผนเพิ่มทุนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สาระสำคัญของคำสั่งล่าสุด ได้แก่: บริษัทต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาทอย่างเร่งด่วนภายในกรกฎาคมนี้ และต้องดำเนินการเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่องจนกว่าการเจรจาซื้อขายกิจการจะเสร็จสิ้น เพื่อให้มีสภาพคล่องเพียงพอ บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย ยังคงต้องหยุดรับประกันภัยใหม่เป็นการชั่วคราวตามคำสั่งเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงาน คปภ. ยืนยันว่า คำสั่งในครั้งนี้ ไม่กระทบต่อความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยเดิม ผู้เอาประกันภัยยังคงได้รับความคุ้มครองและสามารถเรียกร้องสินไหมทดแทนได้ตามสิทธิที่พึงมี หากประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ในกรมธรรม์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. โทร. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th การดำเนินการครั้งนี้ สะท้อนถึงความจริงจังของสำนักงาน คปภ. ในการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง พร้อมคุ้มครองสิทธิของประชาชนอย่างต่อเนื่อง.

คปภ. ประชุมร่วม BDI และภาคธุรกิจประกันภัย เดินหน้าเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่าน Health Link ยกระดับการพิจารณารับประกันและเคลมสินไหม

สำนักงาน คปภ. ร่วมประชุมกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI และผู้แทนธุรกิจประกันภัย เพื่อหารือแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่าน แพลตฟอร์ม Health Link มุ่งยกระดับประสิทธิภาพในการพิจารณารับประกันภัยและเคลมสินไหม โดยคำนึงถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชน และสอดคล้องกับกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล Health Link เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ครอบคลุมแล้วกว่า 2,300 แห่ง ช่วยให้โรงพยาบาลและแพทย์เข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยอย่างปลอดภัย โปร่งใส และต้องได้รับ ความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล (Consent-based) เท่านั้น โดยข้อมูลที่เชื่อมโยงจะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการรักษา เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย และช่วยประหยัดเวลาในการรักษา สำหรับภาคธุรกิจประกันภัย Health Link จะช่วยเสริมประสิทธิภาพใน 3 ด้านหลัก คือ การพิจารณารับประกันภัย (Underwriting) การบริหารจัดการเคลม (Claims Management) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า Health Link มีศักยภาพในการสร้างประโยชน์มหาศาลต่อระบบประกันภัยไทย แต่ยังต้องหารือเพิ่มเติมในหลายประเด็นสำคัญ เช่น ขั้นตอนการขอความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยในการให้บริษัทประกันภัยเข้าถึงข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากปัจจุบัน Health Link ไม่อนุญาตให้บริษัทประกันภัยดาวน์โหลดหรือเก็บข้อมูลไว้เอง โครงสร้างค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงข้อมูล รวมถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ยังไม่รวมอยู่ในระบบ เลขาธิการ คปภ. ยืนยันว่า สำนักงาน คปภ. จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหารือเชิงลึกกับ BDI และภาคธุรกิจประกันภัยต่อไป เพื่อให้การนำ Health Link มาใช้ในภาคประกันภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับกฎหมาย และตอบโจทย์ทุกฝ่าย “Health Link เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบสุขภาพไทย ที่ช่วยลดภาระของคนไข้ และยังช่วยให้ภาคธุรกิจประกันภัยทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น แต่การใช้งานเต็มรูปแบบในธุรกิจประกันภัยยังต้องพัฒนากระบวนการความยินยอมและการเข้าถึงข้อมูลให้ครบถ้วนตามกฎหมาย” — นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. กล่าว สำนักงาน คปภ. มุ่งหวังว่า Health Link จะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบประกันภัยไทยให้ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของประชาชน และเสริมสร้างความมั่นใจในระบบสุขภาพและประกันภัยอย่างยั่งยืน.

คปภ. จับมือสมาคมประกันวินาศภัยและหอการค้าขอนแก่น เปิดตัวโครงการ “ร้านอาหารอุ่นใจ มีประกันภัยคุ้มครอง” นำร่องเมืองขอนแก่น สมาร์ทซิตี้ หนุนธุรกิจร้านอาหารเติบโตอย่างมั่นคง

สำนักงาน คปภ. ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย และหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เปิดตัวโครงการ “ร้านอาหารอุ่นใจ มีประกันภัยคุ้มครอง” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 โดยมีนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นผู้มอบตราสัญลักษณ์ให้กับร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการนำร่อง ซึ่งบริหารความเสี่ยงด้วยระบบประกันภัย ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าและสร้างมาตรฐานใหม่ของธุรกิจร้านอาหารในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น ถือเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้รับการพัฒนาเป็น Smart City ที่มีการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารมากกว่า 7,000 ราย และเป็นจังหวัดที่มีร้านอาหารติด มิชลินไกด์ มากที่สุดในภาค รวม 25 ร้าน โครงการนี้เป็นต้นแบบการผลักดันแนวคิด “Embedded Insurance” หรือการประกันภัยแบบฝังตัว ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารทำประกันภัยไว้ล่วงหน้า เพื่อคุ้มครองลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจร้านอาหารในยุคใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการร้านอาหารและบริษัทประกันภัยชั้นนำ เช่น กรุงเทพประกันภัย ทิพยประกันภัย และวิริยะประกันภัย ส่งผลให้มีร้านอาหารในพื้นที่นำร่องรวม 30 แห่ง เข้าร่วมโครงการ ทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability) ครอบคลุมทั้งร้านอาหารทั่วไป ร้านกาแฟ ไวน์บาร์ ร้านอาหารแฟรนไชส์ และร้านอาหารระดับ Fine Dining โครงการนี้ตั้งเป้าให้ครอบคลุมลูกค้าผู้ใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี โดย สำนักงาน คปภ. มองว่า นี่คือก้าวแรกของการขยายการเข้าถึงประกันภัยในชีวิตประจำวันของประชาชน และช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ในอนาคต สำนักงาน คปภ. เตรียมขยายโครงการไปยังพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร เพื่อขยายผลความสำเร็จและสร้างวัฒนธรรมใหม่ของการทำธุรกิจที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานสูงขึ้นทั่วประเทศ.

คปภ. Kick Off โครงการ “OIC Be Smart First Jobber ปีที่ 4” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เสริมทักษะประกันภัย เตรียมความพร้อมคนรุ่นใหม่สู่เส้นทางอาชีพที่มั่นคง

สำนักงาน คปภ. เปิดตัวโครงการ OIC: Be Smart First Jobber ปีที่ 4 อย่างเป็นทางการ ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 โดยมีนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วยผู้บริหารจากอุตสาหกรรมประกันภัย คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย และนักศึกษาจำนวนมาก เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก โครงการนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตั้งแต่ปี 2565 มีเป้าหมายเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารจัดการทางการเงินและความเสี่ยงผ่านระบบประกันภัยให้กับเยาวชนระดับอุดมศึกษา โดยเน้นปลูกฝังองค์ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมทางการเงินที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน เสมือนเป็นการ “กลัดกระดุมเม็ดแรก” ให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น เพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงทางการเงินอย่างยั่งยืน กิจกรรมภายในงานออกแบบภายใต้แนวคิด “Be Informed and Be Prepared with Insurance – รู้ก่อน…พร้อมกว่า” ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย เช่น Be Experienced: เสวนาแนะแนวอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญในวงการประกันภัย Be Prepared: บรรยายเรื่องการวางแผนทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงตลอดชีวิตการทำงาน Be Edutained / Be Local: แชร์ประสบการณ์จริงโดยผู้ประกอบการรุ่นใหม่และผู้นำความคิดในพื้นที่ Be Competitive: กิจกรรมเกมความรู้ด้านประกันภัย พร้อมของรางวัลกว่า 10,000 บาท Be Recruited: Mini Job Fair เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าถึงอาชีพในธุรกิจประกันภัยจากกว่า 25 บริษัทและสมาคม เลขาธิการ คปภ. เน้นย้ำว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้จัดมาแล้ว 9 พื้นที่ทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 คน และยังคงเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความเข้าใจใหม่ ๆ เกี่ยวกับบทบาทของอุตสาหกรรมประกันภัย ที่ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 4.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของ GDP ประเทศไทย และมีบุคลากรในธุรกิจกว่า 50,000 คน รวมถึงตัวแทนและนายหน้าประกันภัยอีกกว่า 500,000 ราย อุตสาหกรรมประกันภัยไทยยังต้องการบุคลากรคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นโครงการ OIC: Be Smart First Jobber จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานคนรุ่นใหม่ให้มีสุขภาวะทางการเงินที่มั่นคง และเติบโตเป็น “Future Leader” ของประเทศในอนาคต พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน.

คปภ. ปรับหลักเกณฑ์การคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยและเงินกองทุนด้านความเสี่ยง ยกระดับความมั่นคงทางการเงินของธุรกิจประกันภัยไทยสู่มาตรฐานสากล เริ่มใช้ 31 ธ.ค. 2568

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์สำคัญในการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยและเงินกองทุนด้านความเสี่ยงสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยเน้นความแม่นยำและความเหมาะสมของการประเมินความเสี่ยงในแต่ละประเภทการรับประกันภัย แทนการคำนวณในภาพรวมของทั้งบริษัท การปรับปรุงครั้งนี้ ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 และจัดการประชุมชี้แจง รวมถึงการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เพื่อนำข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนมาปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงทางธุรกิจและบริบทของประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงประกาศหลักที่เกี่ยวข้อง ได้แก่: ประกาศเกี่ยวกับการคำนวณความรับผิดของบริษัทประกันวินาศภัย ประกาศเกี่ยวกับการคำนวณความรับผิดของบริษัทประกันชีวิต ประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สาระสำคัญของการปรับปรุง คือ ปรับวิธีคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนรองรับความเสี่ยง จากเดิมที่พิจารณาในระดับรวมของสัญญาทั้งหมด มาเป็นการวิเคราะห์แยกตามประเภทการรับประกันภัย เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจนขึ้น หลักเกณฑ์ใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ และขอความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยทุกแห่งเตรียมความพร้อม ปรับปรุงระบบงาน และกระบวนการภายในให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการเงินของธุรกิจประกันภัยไทย ลดความเสี่ยงเชิงระบบ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในและต่างประเทศ สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาระบบการเงินของไทยสู่มาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน.

สำนักงาน คปภ. ร่วมงาน BOT Open House 2025 เปิดรับสมัครงาน พร้อมแนะแนวอาชีพ ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เข้าร่วมงาน “BOT Open House 2025” จัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่กำลังมองหาโอกาสในสายงานการเงิน ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพในหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของประเทศ รวมถึงโอกาสสมัครงานกับสำนักงาน คปภ. ในงานนี้ สำนักงาน คปภ. ได้นำเสนอบทบาทสำคัญขององค์กรในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยไทย พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางอาชีพในภาคประกันภัย ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงการเติบโตในสายงาน รวมถึงการแนะนำหลักสูตรฝึกอบรมและพัฒนาทักษะต่าง ๆ ผ่านสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง โดย คปภ. ได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการเคียงข้างองค์กรพันธมิตร เช่น สำนักงาน ก.ล.ต., สถาบันคุ้มครองเงินฝาก และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือของหน่วยงานกำกับดูแลในระบบการเงินไทยในการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ ภายในบูธของสำนักงาน คปภ. เจ้าหน้าที่จากฝ่ายทรัพยากรบุคคล สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค และสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ได้ร่วมกันให้ข้อมูลและแนะแนวเส้นทางอาชีพในภาคธุรกิจประกันภัย รวมถึงเปิดรับสมัครงานในหลากหลายตำแหน่ง เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กร การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษา และประชาชนเป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความสนใจของคนรุ่นใหม่ต่อบทบาทของภาคประกันภัยในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงให้กับสังคมไทยในอนาคต สำนักงาน คปภ. ตั้งเป้าใช้โอกาสจากงานในครั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในบทบาทของธุรกิจประกันภัยในชีวิตประจำวันของประชาชน พร้อมเชิญชวนคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ มาร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง โปร่งใส และยั่งยืนต่อไป.

คปภ. ผนึกกำลัง TDRI จัดทำแผนยุทธศาสตร์ประกันภัยสุขภาพภาคสมัครใจ ยกระดับการเข้าถึงและลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพของคนไทย

สำนักงาน คปภ. เดินหน้าพัฒนาระบบประกันภัยสุขภาพภาคสมัครใจ (Private Voluntary Health Insurance: PVHI) ของประเทศไทย โดยร่วมมือกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ศึกษาและจัดทำแผนยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับระบบประกันสุขภาพเอกชนให้ประชาชนทุกกลุ่มรายได้เข้าถึงได้อย่างเป็นธรรม ครอบคลุม และยั่งยืน เป้าหมายหลักของโครงการนี้ คือ สร้างระบบประกันสุขภาพภาคสมัครใจที่เชื่อมโยงและเสริมกับระบบสวัสดิการของรัฐ อาทิ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ เพื่อปิดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่มประชาชนรายได้น้อย และรองรับแนวโน้มค่าเบี้ยประกันสุขภาพเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แผนยุทธศาสตร์นี้จะครอบคลุมทั้ง ระยะสั้น (1-3 ปี) เพื่อกำหนดแนวทางส่งเสริมธุรกิจประกันภัย และแผนปฏิบัติการที่สามารถขับเคลื่อนได้ทันที และ ระยะยาว (5-10 ปี) เพื่อเป็น Roadmap ในการปรับปรุงและบูรณาการระบบประกันสุขภาพให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ สร้างความยั่งยืนให้กับทั้งระบบธุรกิจประกันภัยและประชาชนผู้เอาประกันภัย คปภ. ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานสำคัญทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานประกันสังคม สปสช. กรมบัญชีกลาง สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมให้ข้อคิดเห็นเชิงนโยบายและเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงในทางปฏิบัติจริงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในการประชุมคณะทำงานครั้งแรก ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนของแผนยุทธศาสตร์ฉบับนี้ นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. ระบุว่า โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบประกันภัยสุขภาพเอกชนของไทยให้มีความเป็นธรรม เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มรายได้ในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเอกชน ในภาพรวม โครงการนี้จะช่วยยกระดับระบบประกันสุขภาพของประเทศให้มีความสมดุลระหว่างภาครัฐและเอกชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงให้กับประชาชน และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจประกันภัยเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว. Ask ChatGPT

คปภ. ยกระดับกระบวนการยุติธรรมทางเลือก ขับเคลื่อนประกันภัยไทยด้วยกลไกอนุญาโตตุลาการ

สำนักงาน คปภ. จัดสัมมนาอนุญาโตตุลาการ ประจำปี 2568 เพื่อผลักดันการใช้กลไก อนุญาโตตุลาการ ในการระงับข้อพิพาทด้านประกันภัย เปิดทางเลือกใหม่ให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม ลดความซับซ้อนของการดำเนินคดีในศาล โดยงานนี้ นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดงาน และเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพอนุญาโตตุลาการ รวมถึงพนักงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายประกันภัยสมัยใหม่ และสามารถวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทได้อย่างมีมาตรฐานสากล การสัมมนาครั้งนี้ยังครอบคลุมหัวข้อใหม่ ๆ เช่น ประกันสุขภาพแบบ Copayment ตามแนวทาง New Health Standard ช่วยควบคุมต้นทุนค่ารักษาพยาบาลในระยะยาว ความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหว หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในเมียนมา ส่งผลกระทบถึงไทย รวมถึงการเสวนาเรื่อง แนวทางพิจารณาค่าสินไหมทดแทน โดยนักวิชาการและอนุญาโตตุลาการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ช่วยถ่ายทอดความรู้เชิงลึก เพื่อใช้วินิจฉัยข้อพิพาทได้อย่างครบถ้วนและเป็นธรรม เลขาธิการ คปภ. สรุปว่า การส่งเสริมกลไกอนุญาโตตุลาการจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและธุรกิจประกันภัยไทย พัฒนาเป็นระบบยุติธรรมทางเลือกที่ทันสมัย โปร่งใส และสอดรับกับสัญญาประกันภัยยุคใหม่ ช่วยยกระดับความมั่นคงของระบบประกันภัยไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต.

พื้นที่โฆษณา