
คปภ. ปรับหลักเกณฑ์การคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยและเงินกองทุนด้านความเสี่ยง ยกระดับความมั่นคงทางการเงินของธุรกิจประกันภัยไทยสู่มาตรฐานสากล เริ่มใช้ 31 ธ.ค. 2568
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์สำคัญในการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยและเงินกองทุนด้านความเสี่ยงสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยเน้นความแม่นยำและความเหมาะสมของการประเมินความเสี่ยงในแต่ละประเภทการรับประกันภัย แทนการคำนวณในภาพรวมของทั้งบริษัท
การปรับปรุงครั้งนี้ ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 และจัดการประชุมชี้แจง รวมถึงการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เพื่อนำข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนมาปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงทางธุรกิจและบริบทของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงประกาศหลักที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:
-
ประกาศเกี่ยวกับการคำนวณความรับผิดของบริษัทประกันวินาศภัย
-
ประกาศเกี่ยวกับการคำนวณความรับผิดของบริษัทประกันชีวิต
-
ประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย
สาระสำคัญของการปรับปรุง คือ ปรับวิธีคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนรองรับความเสี่ยง จากเดิมที่พิจารณาในระดับรวมของสัญญาทั้งหมด มาเป็นการวิเคราะห์แยกตามประเภทการรับประกันภัย เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจนขึ้น
หลักเกณฑ์ใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ และขอความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยทุกแห่งเตรียมความพร้อม ปรับปรุงระบบงาน และกระบวนการภายในให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ
การปรับปรุงครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการเงินของธุรกิจประกันภัยไทย ลดความเสี่ยงเชิงระบบ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในและต่างประเทศ สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาระบบการเงินของไทยสู่มาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน.

